ประวัติ Uniqlo แบรนด์มินิมอลระดับโลก
หากพูดถึงแบรนด์เสื้อผ้าที่เรียบง่ายแต่มีพลัง “ยูนิโคล่” หรือ Uniqlo คือชื่อที่หลายคนต้องนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ แบรนด์ที่ไม่ต้องใช้ลวดลายหวือหวา ไม่ต้องมีโลโก้ใหญ่โต แต่กลับสามารถกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกได้ เพราะความเรียบง่ายที่ไม่ธรรมดา และคุณภาพที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด Uniqlo เป็นมากกว่าแบรนด์เสื้อผ้า มันคือ “แนวคิดการใช้ชีวิต” ที่เชื่อว่าการแต่งตัวไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่ต้องเข้ากับชีวิตจริงได้ทุกวัน
จุดเริ่มต้นจากร้านเสื้อเล็กในฮิโรชิมะ
เรื่องราวของยูนิโคล่เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1984 หรือ พ.ศ. 2527 ที่เมือง Hiroshima ประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มจากร้านเสื้อผ้าขนาดเล็กที่ใช้ชื่อว่า “Unique Clothing Warehouse” ซึ่งเน้นขายเสื้อผ้าแนวลำลองคุณภาพดี ราคาย่อมเยา
ต่อมา เมื่อแบรนด์เริ่มขยายกิจการและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้น จึงย่อชื่อจาก Unique Clothing เป็น Uniqlo ซึ่งมาจากคำว่า Unique และ Clothing รวมกัน หมายถึง “เสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง” จากร้านเล็กๆ เพียงแห่งเดียว วันนี้ยูนิโคล่กลายเป็น แบรนด์ระดับโลก ที่มีสาขามากกว่า 2,300 สาขาในกว่า 25 ประเทศ และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี
แนวคิดหลัก LifeWear เสื้อผ้าที่ออกแบบเพื่อชีวิตจริง
สิ่งที่ทำให้ยูนิโคล่แตกต่างจากแบรนด์อื่นคือแนวคิด LifeWear เสื้อผ้าที่ไม่ได้ถูกสร้างมาเพียงเพื่อแฟชั่น แต่เพื่อการใช้ชีวิตจริงของทุกคน ยูนิโคล่มองว่า เสื้อผ้าที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงหรือซับซ้อน แต่ต้อง “ใช้งานได้จริง ใส่สบาย และเหมาะกับทุกโอกาส” เสื้อทุกตัวของแบรนด์จึงออกแบบมาเพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกดีในทุกวัน ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองที่หนาวจัด หรือร้อนชื้นแบบเอเชีย
จุดแข็งของยูนิโคล่ที่ครองใจคนทั่วโลก
ยูนิโคล่ประสบความสำเร็จได้เพราะเข้าใจ “หัวใจของผู้บริโภค” อย่างแท้จริง จุดแข็งหลักของแบรนด์มีดังนี้
: คุณภาพดี ราคาจับต้องได้ ยูนิโคล่เลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีระดับสูงในกระบวนการผลิต แต่ยังคงราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ เพราะแบรนด์เน้น “การผลิตจำนวนมากแบบมีประสิทธิภาพ” ทำให้สามารถรักษาคุณภาพได้ดีโดยไม่ต้องขายแพง
: ดีไซน์เรียบง่าย มิกซ์แอนด์แมทช์ได้ทุกลุค ความมินิมอล คือ DNA ของยูนิโคล่ เสื้อผ้าไม่มีลวดลายฉูดฉาด แต่เน้นโทนสีเรียบ เช่น ขาว เทา ดำ เบจ ที่สามารถนำไปแมทช์กับเสื้อผ้าอื่นได้ง่าย ทุกชิ้นออกแบบมาให้เข้ากับทุกเพศ ทุกวัย และทุกโอกาส
: เทคโนโลยีสิ่งทอสุดล้ำ ยูนิโคล่ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์แฟชั่น แต่เป็น “แบรนด์เทคโนโลยีสิ่งทอ” ที่วิจัยและพัฒนาเนื้อผ้าใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้เสื้อผ้ามีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงของผู้คนทั่วโลก
นวัตกรรมเนื้อผ้าที่เป็นซิกเนเจอร์ของยูนิโคล่
ยูนิโคล่เรียกสิ่งเหล่านี้ว่า Technology of Comfort เพราะทุกนวัตกรรมที่ออกมา ไม่ได้เน้นความแฟชั่นล้วนๆ แต่ต้อง “ทำให้ชีวิตผู้สวมใสดีขึ้นจริง” โดยจะมี
: HEATTECH อุ่นแต่บางเบา เทคโนโลยี HEATTECH ถูกพัฒนาเพื่อรับมือกับอากาศหนาว โดยเนื้อผ้าจะสามารถกักเก็บความร้อนจากร่างกายและเปลี่ยนความชื้นให้เป็นพลังงานความร้อน ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกอบอุ่นโดยไม่ต้องใส่เสื้อหลายชั้น เหมาะกับประเทศในโซนหนาว
: AIRism เย็นสบาย ไม่เหนียวตัว ในทางตรงกันข้าม สำหรับอากาศร้อนอย่างประเทศไทย เทคโนโลยี AIRism คือคำตอบ เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี แห้งเร็ว ไม่อับชื้น และช่วยยับยั้งแบคทีเรีย เหมาะกับการใส่ในชีวิตประจำวันหรือแม้แต่เป็นเสื้อชั้นใน
: Ultra Light Down กันหนาวแต่ไม่เทอะทะ
เสื้อกันหนาวขนเป็ดรุ่นยอดนิยมที่เบาเป็นพิเศษ พับเก็บง่าย พกพาสะดวก แต่ให้ความอบอุ่นเทียบเท่าเสื้อกันหนาวหนาๆ รุ่นใหญ่
กลยุทธ์การตลาด เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
ยูนิโคล่ไม่เน้นการจ้างพรีเซนเตอร์ดัง แต่เลือกใช้กลยุทธ์ “การตลาดแบบเรียบง่าย” ที่เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าในร้านมากกว่าการโฆษณา นอกจากนี้ ยูนิโคล่ยังร่วมมือกับดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก เพื่อสร้างสรรค์คอลเลคชันพิเศษที่เพิ่มคุณค่าให้แบรนด์ เช่น
: Clare Waight Keller ดีไซเนอร์ผู้เคยออกแบบชุดเจ้าสาวให้เมแกน มาร์เคิล กับคอลเลคชัน “UNIQLO : C”
: J.W. Anderson ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษผู้ผสานความสตรีทเข้ากับความเรียบหรู
: Inès de la Fressange ไอคอนแฟชั่นฝรั่งเศสผู้เชี่ยวชาญด้านสไตล์มินิมอล
นอกจากนี้ ยูนิโคล่ยังมีคอลเลคชันที่ร่วมมือกับแบรนด์ดัง การ์ตูน หรือภาพยนตร์ เช่น Disney, Studio Ghibli, Pokemon, Dragon Ball, Star Wars, Detective Conan และอีกมากมาย ภายใต้ซีรีส์ UT Collection ที่สะท้อนวัฒนธรรมป๊อปในรูปแบบที่เรียบแต่เท่
ความยั่งยืนและการให้กลับคืนสู่สังคม
ยูนิโคล่เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับ “ความยั่งยืน” อย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี 2007 ยูนิโคล่ได้ร่วมมือกับ UNHCR (สำนักงานข้าหลวงผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ) เพื่อส่งมอบเสื้อผ้าที่ลูกค้านำมาบริจาคไปยังผู้ลี้ภัยทั่วโลก นอกจากการบริจาคเสื้อผ้าแล้ว ยูนิโคล่ยังมุ่งพัฒนา “เสื้อผ้ารักษ์โลก” โดยใช้วัสดุรีไซเคิล เช่น โพลีเอสเตอร์จากขวดพลาสติก และมุ่งลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างธุรกิจกับสิ่งแวดล้อม
ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ
ยูนิโคล่ในวันนี้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยติดอันดับ Top 100 Global Brands ด้วยมูลค่ามากกว่า 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 240,000 ล้านบาทไทย (ข้อมูลปี 2018)
บริษัทแม่ Fast Retailing Co., Ltd. มีรายได้ที่เติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยปีงบประมาณล่าสุดคาดว่ากำไรจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และปัจจุบันยูนิโคล่มีสาขากว่า 2,394 สาขาทั่วโลก รวมถึงกว่า 800 สาขาในญี่ปุ่น และกว่า 60 สาขาในประเทศไทย
สินค้าที่เป็นหัวใจของยูนิโคล่
ยูนิโคล่ไม่ได้ขายเพียงเสื้อผ้า แต่ขาย “ประสบการณ์แห่งความเรียบง่าย” สินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่
เสื้อยืด เรียบง่าย ใส่ได้ทุกโอกาส มีให้เลือกทั้งทรงธรรมดาและโอเวอร์ไซซ์
เสื้อโปโล ดีไซน์คลาสสิก สวมใส่ได้ทั้งวันทำงานและวันสบาย
กางเกงยีนส์ งานตัดเย็บประณีตหลายทรง ทั้งสลิม สตรง และบอยเฟรนด์
เสื้อกันหนาว HEATTECH อุ่นแต่ไม่อึดอัด
เสื้อผ้า AIRism ระบายอากาศดี เหมาะกับเมืองร้อน
ชุดนอนและชุดชั้นใน ใส่สบายและออกแบบให้เหมาะกับสรีระจริง
คอลเลคชันพิเศษ UT เสื้อยืดลายคอลแลบกับศิลปินและคาแรกเตอร์ดัง
Uniqlo ไม่ใช่แบรนด์แฟชั่นที่ไล่ตามเทรนด์ แต่เป็นแบรนด์ที่ “สร้างเทรนด์” จากความเรียบง่าย ด้วยแนวคิดที่เข้าใจมนุษย์ที่สุด เสื้อผ้าที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นในทุกวัน จากร้านเล็กในฮิโรชิมะสู่แบรนด์ระดับโลก ยูนิโคล่พิสูจน์ให้เห็นว่าความเรียบง่าย ไม่ได้หมายถึง ความธรรมดา หากแต่คือ ความยั่งยืน ที่ทำให้แบรนด์ครองใจคนทั่วโลกได้อย่างยาวนาน

